เรื่องย่อโดมทอง
... ►.คุณมณฑา หญิงสาวงามสง่าแห่งตระกูลผู้ดี ได้สมรสกับ เจ้าพระยาสรรักษ์ไกรณรงค์ เจ้าของคฤหาสน์ที่สวยงามราวกับความฝันชื่อ โดมทอง ซึ่งด้านหน้าติดภูเขา ด้านหลังติดทะเล โดยหลังแต่งงาน คุณมณฑา ได้พาน้องสาวที่เกิดจากภรรยาคนสุดท้ายของบิดามาด้วย คุณพลับพลึง หรือ คุณน้อย จึงมีอายุห่างจากคุณมณฑาค่อนข้างมาก ในขณะที่คุณมณฑาเป็นคนรักแรงเกลียดแรง แฝงด้วยความอำมหิตอย่างคาดไม่ถึง เข้มงวด และเจ้าอารมณ์ สร้างความตึงเครียด อึดอัดใจให้กับผู้ที่อยู่ใกล้เสมอ แต่คุณพลับพลึงและเสียงเพลงลาวครวญจากจะเข้ของเธอ กลับนำความสดใส มีชีวิตชีวามาสู่ โดมทอง และ ท่านเจ้าคุณสรรักษ์ฯ
คุณมณฑาเริ่มเอะใจเมื่อท่านเจ้าคุณสั่งให้ปลูกทุ่งดอกพลับพลึง แต่ท่านเจ้าคุณก็แก้โดยปลูกต้นมณฑาไว้ในสวน นางพิศ บ่าวคนสนิท คอยยุยงว่าทำไมถึงปลูกพลับพลึงมากมายเป็นทุ่ง แต่ปลูกมณฑาไม่กี่ต้น ท่านเจ้าคุณก็แก้ได้อีกว่า ต้นมณฑาไม่เหมาะกับปลูกเป็นทุ่งเหมือนต้นพลับพลึง ถึงแม้คุณมณฑาจะไม่พอใจแค่ไหน ก็ไม่กล้าแสดงออกมากนักด้วยเกรงใจสามี โดยมาไล่เบี้ยเอากับน้องสาวแทน
ถึงแม้จะเกรงกลัวพี่สาวขนาดไหน คุณพลับพลึงผู้อ่อนไหวและเยาว์วัยก็ไม่อาจต่อต้านความรัก ความปรารถนาของท่านเจ้าคุณได้ ทั้งสองลักลอบมีความสัมพันธ์กัน ขณะที่คุณมณฑาตั้งครรภ์ นางพิศเป็นคนจับได้ แล้วนำมาฟ้องนาย คุณมณฑาเคียดแค้นจนแทบกระอักเป็นเลือด
ระหว่างที่ท่านเจ้าคุณไปทำงาน คุณมณฑาสั่งให้นางพิศโบยคุณพลับพลึงจนสลบ พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้เรื่องนี้ถึงท่านเจ้าคุณเด็ดขาด ขณะเดียวกันคุณหญิงก็มารยาแพ้ท้องมากมายจนท่านเจ้าคุณไม่อาจปลีกตัวมาพบคุณพลับพลึงได้ และถึงแม้จะพบโดยบังเอิญคุณพลับพลึงก็จะพยายามหลบหน้าหลบตา หรือไม่คุณมณฑากับนางพิศก็จะเข้ามาในบริเวณนั้น
จนกระทั้งวันหนึ่ง ท่านเจ้าคุณต้องไปราชการต่างจังหวัด ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงคุณพลับพลึง ท่านเจ้าคุณจึงหาโอกาสมาล่ำลา ซึ่งก็ไม่ได้พ้นสายตาของนางพิศ ที่ได้รับคำสั่งให้คอยสอดส่องเป็นหูเป็นตาแทนเจ้านาย คุณมณฑาแค้นแสนแค้น แต่พยายามเก็บอารมณ์ไว้ ยิ่งได้สังเกตเห็นแววตาท่านเจ้าคุณที่ลอบมองน้องสาวอย่างเป็นห่วงและอาลัยอาวรณ์ ท่านผู้หญิงแค้นแสนแค้น หากพยายามเก็บอารมณ์ไว้
เมื่อท่านเจ้าคุณไปแล้ว คุณมณฑาไม่รอช้า สั่งให้นางพิศไปพาพี่ชายมา แล้วสั่งให้ทั้งสองจับคุณพลับพลึงไปล่ามโซ่ขังในห้องบนยอดโดมทอง คุณพลับพลึงพยายามขอร้องให้ฆ่าเธอให้ตายเสียดีกว่า จะขังทรมานกันแบบนี้ แต่คุณมณฑากลับหัวเราะเยาะ บอกว่าการฆ่ามันไม่สาแก่ใจเท่ากับการที่ต้องทนทุกข์ทรมาน คุณพลับพลึงร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่นั่นกลับทำให้คุณมณฑาสะใจ
คุณพลับพลึงถูกขังอยู่ในห้องบนยอดโดมทองนั้น โดยไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ทั้งยังไม่ได้กินข้าวกินน้ำ นายพัน ซึ่งรู้สึกผิดได้แอบเอาข้าวเอาน้ำมาให้ เมื่อคุณมณฑาจับได้จึงไล่นายพันออกไป ไม่ให้มาเหยียบโดมทองอีก และได้สั่งนางพิศให้ตอกตะปูปิดตายห้องนั้นเสีย เสียงคุณพลับพลึงตะโกนออกมา "คุณพี่ใจร้ายเหลือเกิน อิฉันจะไม่ไปไหนจะอยู่รอดูวันสุดท้ายของคุณพี่"
บรรยากาศในรถเงียบกริบจนกระทั่งหญิงสาวทนไม่ไหว เธอเอะใจว่าจะถูกหลอก บ้านภูไทอยู่ไกลเกินไปไม่เหมือนที่ลานนาบอกเธอเลย เมื่อเธอประท้วงเขา อดิศวร์กลับรับว่าเขาไม่คิดจะพาเธอไปบ้านนั้นเลยและไม่มีทางเป็นไปได้ เขาไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่นอน วิรงรองโกรธจนพูดไม่ออก อดิศวร์จึงค่อย ๆ ปรับความเข้าใจกับเธอ แต่กว่าวิรงรองจะได้ยินคำว่ารักก็ยากเต็มที น่าแปลกที่เธอเชื่อเขาและเพิ่งรู้ใจตัวเองว่าเธอรักเขาเช่นกัน วิรงรองยอมกลับไปโดมทองอย่างเต็มใจ เมื่อพิชญ์กับพิณทองกลับไปแล้ว วิรงรองเริ่มสบายใจขึ้นบ้าง
คืนหนึ่งอดิศวร์พาเธอไปงานเลี้ยงที่จวนผู้ว่ากว่าจะกลับดึกมาก คืนนั้นเป็นคืนวันเพ็ญวิรงรองจึงชวนให้เขารอดูรถม้าลึกลับด้วยกัน อดิศวร์ตื่นเต้นที่เห็นว่ารถม้ามีจริงๆ เขาบอกเธอว่าชายคนที่ขับรถม้าไม่ได้มองห้องนอนวิรงรอง สายตาเขามองเลยขึ้นไปที่โดมทองต่างหาก
เช้าวันต่อมาอดิศวร์กับตาแสงคนขับรถ ขึ้นไปรื้อประตูและขึ้นไปที่โดมทอง วิรงรองกับอุษาตามไปด้วย บนนั้นมีประตูปิดตายอีกหนึ่งบาน อดิศวร์สั่งรื้อทันที เมื่อประตูเปิดทุกคนจึงเห็นว่ามีห้องอยู่อีกห้องหนึ่งทั้งที่ไม่น่าจะมี ทั้งหมดค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้อง ที่มุมห้องมีร่างทีเหลือเพียงโครงกระดูก และมีโซ่ตรวนเส้นโตถูกล่ามไว้ที่ข้อเท้าอย่างน่าสงสาร สร้อยคอทองคำห้อยล็อกเก็ตรูปเจ้าพระยาสุรรักษ์ไกรณรงค์ที่ตกอยู่ใกล้ ๆ ทำให้รู้ได้ไม่ยากว่าเธอคือคุณพลับพลึงนั่นเอง
อดิศวร์คิดถึงเรื่องที่พันธุ์สูรย์บอกว่า ที่จริงแล้วเจ้าพระยาสุรรักษ์ไกรณรงค์รักกับคุณพลับพลึง การแต่งงานครั้งนั้นผิดฝาผิดตัว ท่านจำต้องแต่งงานกับคุณมณฑาซึ่งเป็นพี่สาว เมื่อภรรยาพาคุณพลับพลึงน้องสาวมาอยู่ด้วยทั้งคู่จึงหักใจไม่ได้ จนกระทั่งคุณมณฑาท้องจึงรู้ว่าสามีและน้องสาวมีความสัมพันธ์กัน หลังเธอคลอดลูกซึ่งก็คือพ่อของอดิศวร์ ไม่นานเจ้าพระยาสุรรักษ์ไกรณรงค์ต้องไปราชการหัวเมืองหลายวันและคุณพลับพลึงก็หายไปจากโดมทองตอนนั้นเอง
เสียงของวิรงรองที่บอกเขาให้ไขกุญแจโซ่ที่ล่ามข้อเท้าเธอทำให้อดิศวร์ได้สติ เขาผลุนผลันออกไปจากห้องโดยมีวิรงรองวิ่งตามไปที่ห้องท่านผู้หญิง เธอเข้าไปห้ามอดิศวร์ที่กำลังต่อว่าท่านผู้หญิงอย่างรุนแรง ท่านผู้หญิงปฏิเสธทุกอย่าง เสียงของวิรงรองทำให้ทั้งคู่หันมาหาเธอ ท่านผู้หญิงหน้าซีดเผือดตกใจ ท่านเรียกชื่อพลับพลึงไล่เธอออกไปก่อนจะเป็นลมและสิ้นใจทันที
ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด อดิศวร์ค้นกำปั่นข้างตัวท่านผู้หญิงซึ่งท่านหวงนักหนาจึงพบกุญแจ เขารีบไปไขโซ่ที่ล่ามข้อเท้าคุณพลับพลึง กุญแจพวงนั้นยืนยันได้ว่าท่านผู้หญิงอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด อดิศวร์ต้องจัดงานศพถึงสองงานพร้อมกัน เพียงแต่ร่างของคุณพลับพลึงต้องไปบำเพ็ญกุศลที่วัดใกล้ ๆ เพื่อไม่ให้อื้อฉาวขณะที่ท่านผู้หญิงจัดที่บ้าน
หลังจากท่านผู้หญิงสิ้นอดิศวร์กับวิรงรองใกล้ชิดกันมากขึ้น ยืนยันความสัมพันธ์ที่มีต่อกันจนแสงแขแค้นใจแทบคลั่ง เธอรู้ดีว่าอดิศวร์ต้องแต่งงานกับวิรงรองแน่นอน ไม่มีใครขัดขวางเขาได้แน่ วันหนึ่งในระหว่างงานศพขณะที่วิรงรองคุยกับภูไทและลานนา พันธุ์สูรย์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาบอกให้พาวิรงรองกลับไปข้างในบ้าน เขาพูดไม่ทันขาดคำเสียงปืนดังขึ้น ร่างวิรงรองทรุดฮวบลงทันที ภูไทรีบช้อนตัวเธอไว้จึงรู้ว่าเธอถูกยิง
อดิศวร์ทั้งโกรธและแค้นที่สุดขณะที่หมอกำลังผ่าตัดกระสุนออกให้วิรงรอง อดิศวร์คุยกับพันธุ์สูรย์อย่างเคร่งเครียด และยิ่งโกรธเมื่อรู้ว่าแสงแขอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เขาให้พันธุ์สูรย์ประสานกับตำรวจตามล่ามือปืนให้ได้ หมอช่วยชีวิตวิรงรองไว้ได้ อดิศวร์ดีใจมากเขาดูแลเธออย่างใกล้ชิดมากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน มือปืนถูกจับตัวได้ไม่กี่วันต่อมา และให้การซัดทอดแสงแขว่าเป็นผู้จ้างวาน แต่แสงแขชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน
เมื่อเรื่องร้าย ๆ ผ่านไป ได้มีการเตรียมงานมงคลสองงาน หนึ่งคืองานแต่งงานของอุษากับพันธุ์สูรย์ และอีกงาน เป็นงานแต่งของอดิศวร์กับวิรงรอง ที่จะครองรักครองสุขกันที่โดมทองแห่งนี้ไปนานเท่านาน ติดตามชม ละครโดมทอง...