จำนวน 4 แผ่น
เสียง ไทย
บรรยาย -
เรื่องย่อ
เรื่องย่อ : สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 1
-.....เรื่องย่อ อิศร์ ผู้จัดการแผนกส่งเสริมการขายของบริษัทแห่งหนึ่ง มีสุวิทย์ เป็นประธานบริษัท อิศร์เริ่มงานที่นี่ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ เขาเป็นคนเก่ง มีความสามารถมาก จึงได้เลื่อนเป็นผู้จัดการในเวลาไม่นานเขาเป็นคนโชคดีทั้งเรื่องงานและความ รัก เพราะนันทวดี แฟนสาวเป็นลูกสาวคนเดียวของสุวิทย์ อิศร์มีเพื่อนสนิทชื่อ ทวี ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายโฆษณา และมีคู่แข่งคู่ปรับคนสำคัญคือ ณรงค์ ผู้จัดการทั่วไป ณรงค์เกลียดอิศร์เพราะเขาเก่งและหล่อ จนทำให้จีบนันทวดีได้สำเร็จ ณรงค์พยายามจีบเธอเช่นกัน แต่เธอไม่เคยสนใจเขาเลย ณรงค์รักนันทวดีจริงๆ เมื่อนันทวดีเป็นแฟนกับอิศร์ณรงค์แค้นใจมาก เขาคิดว่าอิศร์จีบเธอเพราะเธอรวย อิศร์คิดรวยทางลัดเป็นหนูตกถังข้าวสาร และณรงค์ก็ไม่เคยละโอกาสที่จะทำร้ายอิศร์ จนทำให้ทั้งคู่เกือบมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง ทวีต้องทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยตลอดเวลา ดีที่อิศร์เป็นคนมีเหตุผลและใจเย็น จึงเป็นฝ่ายนิ่งเสียทุกครั้ง แทนที่จะเป็นผลดีกับกลายเป็นจุดอ่อนให้ณรงค์โจมตีได้อีกว่าเป็นเรื่องจริง ถึงไม่แก้ตัว แถมยังแหยอีกต่างหาก อิศร์ได้แต่อดทน เขาคิดว่าความจริงก็คือความจริง ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ณรงค์กล่าวหาก็ไม่ต้องเดือดร้อน ที่สำคัญเขากับนันทวดีก็ยังรักกันดี ครอบครัวเขาประกอบด้วย ดรุณี น้องสาวอายุ 20 ปี และพงษ์ น้องชายวัย 9 ขวบซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจ เงินเดือนของอิศร์ส่วนใหญ่หมดไปกับค่าผ่อนบ้านและค่ารักษาตัวของพงษ์ ดรุณีเองก็ช่วยเหลือด้วยการรับหน้าที่เป็นแม่บ้าน ดูแลงานทุกอย่าง ดูๆ ไปอิศร์ก็มีความสุขตามสมควร-
-จนกระทั่งวันหนึ่งนันทวดีเกิดอยากดูคอนเสิร์ตนักร้องดังจากอเมริกาที่มาเปิด การแสดงในเมืองไทย เธอมาขอให้เขาพาไปดูอิศร์บอกเธอตรง ๆ ว่าบัตรแพงมาก ถ้าจะดูชนิดใกล้เวทีอย่างที่ นันทวดีชอบ ก็ต้องเสียเงินมาก เขาขอซื้อบัตรในราคาถูกกว่านี้ นันทวดีก็ไม่ยอมและเริ่มหาเรื่องกระบึงกระบอน เธอเป็นผู้หญิงสวยที่เจ้าอารมณ์และเอาแต่ใจตัวเองที่สุด นันทวดีโวยวายเมื่อไม่ได้ดังใจเธอบอกอิศร์ว่าเธอจะไปกับคนอื่นที่เขามีปัญญา ซื้อบัตรพาเธอไปได้ แล้วอิศร์จะเสียใจ ก่อนจะงอนป่องๆออกไป อิศร์ได้แต่มองตามอย่างกลุ้มใจ แต่ไม่มีอารมณ์ง้อ เพราะเขามีแผนงานด่วนที่จะต้องเตรียมเพื่อเข้าประชุมในวันรุ่งขึ้น อิศร์พยายามรวบรวมสมาธิทำงานแต่ไม่สำเร็จ แผนงานที่วางไว้คร่าวๆ ถูกขยำลงตะกร้าแผ่นแล้วแผ่นเล่า จนอิศร์ตั้งใจว่าจะไปทำงานต่อที่บ้าน อิศร์ทำงานจนดึก รุ่งขึ้นเขามาประชุมแบบสลึมสลือ พอพบนันทวดีหน้าห้องประชุม อิศร์ก็แทบจะลากลับบ้าน เพราะเธอหน้างอทำท่าพร้อมจะมีเรื่องกับเขาตลอดเวลา พอเริ่มประชุมไม่นานอิศร์ก็ต้องตาสว่างงงกับแผนงานของณรงค์ที่ลุกขึ้นแถลงใน ที่ประชุม เพราะนั่นคือแผนงานของเขาทั้งหมด ณรงค์ไปเอามาจากไหน มันเป็นไปไม่ได้ที่คนสองคน จะคิดเหมือนกันกระทั่งตัวเลข อิศร์มาคิดออกว่าเขาขยำแผ่นงานไว้ในตะกร้านั่นเอง อิศร์ยอมไม่ได้ที่จะถูกขโมยความคิดอย่างนี้ เขาลุกขึ้นประท้วงกลางห้องประชุม แต่กลับกลายเป็นตัวตลก ในเมื่อไม่มีใครฟังเขา อิศร์ผลุนผลันกลับไปรื้อค้นตะกร้าขยะในห้อง อิศร์รื้อค้นเหมือนคนบ้า แต่ไม่พบเอกสารฉบับร่างตามที่คาดไว้จริง ๆ เมื่อเขากลับมาก็พบกับสายตาเยาะเย้ยของณรงค์ แววตาสะใจปนสมเพชของนันทวดีและแววตาของกรรมการคนอื่น ๆ ที่มองเขาเป็นตัวตลก อิศร์เริ่มหมดกำลังใจ ทวีเดินเขามาปลอบให้เขากลับไปพักผ่อน-
-อิศร์ แวะถอนเงิน 2 หมื่นบาทสำหรับจ่ายค่าบ้าน และเดินเรื่อยเปื่อยในห้างสรรพสินค้า อิศร์รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เขาโชคร้ายที่สุด เมื่อจะหยิบกระเป๋าเงินออกมาซื้อของให้พงษ์แล้วไม่มี นอกจากจะทะเลาะกับแฟน ถูกเพื่อนขโมยความคิด และยังถูกล้วงกระเป๋าอีกต่างหาก ด้วยความเซ็งเขาขับรถไปเรื่อยๆ จนค่ำ มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่ซอยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ทิ้งขยะของกทม. ตรงหน้าเขาคือขยะกองโต ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง เขาเห็นหญิงชราคนหนึ่งกำลังคุ้ยเขี่ยกองขยะหาของที่พอจะมีค่าเพื่อนำไปขาย เขามองแกอย่างสงสารและนึกขำๆ ว่าวันนี้เขาก็ค้นของเหมือนแกเช่นกัน ขณะนั้นเองก็มีชายหนุ่มท่าทางติดยาตรงเข้ามาไถเงินหญิงแก่แกไม่ยอมให้ แต่ชายคนนั้นก็ข่มขู่จะเอาให้ได้ ภาพหญิงชราที่ถูกรังแก ทำให้อิศร์ทนไม่ได้ เขาตรงเข้าไปช่วยหญิงชราทันที ส่วนจิ๊กโก๋ขี้ยาก็รีบแผ่นหนีเช่นกันเมื่อเห็นว่าอิศร์เอาจริง เมื่อจิ๊กโก๋ไปแล้วอิศร์ควานกระเป๋ากางเกงหยิบเศษเงินที่เหลือจากรับประทาน อาหารกลางวันราว 400 บาทเศษ ซึ่งเป็นเงินทั้งหมดที่เขามีติดตัวตอนนั้น ให้หญิงชราที่หน้าสงสาร แต่แกก็ไม่ยอมรับเงินง่ายๆ เมื่ออิศร์เซ้าซี้และบอกว่าเขาอยากช่วยแกและอยากทำบุญบ้าง หญิงชราก็ยอมรับเงิน ก่อนจากกัน แกหยิบของชิ้นหนึ่งออกมาส่งให้เขา แกกำเอาไว้ในมือและให้เขาแบมือ อิศร์ไม่ยอมรับ หญิงชราบอกว่าเป็นของที่ระลึกจากแกสำหรับคนดีๆ อย่างอิศร์ ซึ่งถ้าไม่รับแกก็ไม่รับเงินเช่นกัน อิศร์จึงยอม เมื่อเขาแบมือออกมาจึงเห็นว่าของสิ่งนั้นคือตะเกียงแก้วคริสตัลใบจิ๋ว ขอบของตะเกียงเป็นสีทองสุขปลั่ง เมื่อเนื้อแก้วใสส่องประกายระยับ หญิงชราบอกเขาว่าให้เก็บรักษาตะเกียงนี้ไว้กับตัว เพราะมันจะนำโชคมาให้เขา อิศร์มองตะเกียงในมืออีกครั้งยิ้มๆ ใจเขาคิดถึงอาลาดินกับตะเกียงวิเศษ ถ้าเป็นตะเกียงวิเศษจริง เขาก็คงโชคดีมียักษ์ออกมาช่วย แก้ไขสถานการณ์ในทุกเรื่อง อิศร์มองตะเกียงอีกครั้ง จึงคิดได้ว่ามันสวยมากและน่าจะขายได้ราคา เขาจึงคิดจะคืนให้กับหญิงชรา แต่เมื่อเขาหันกลับไปก็ไม่เห็นเงาของหญิงชราเสียแล้ว อิศร์ทั้งขับรถวนหาก็หานางไม่เจอ เขาแปลกใจที่นางหายไปแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ-