เรื่องย่อ : เจ้าสาวผมไม่ใช่ผี
►...ทศ นักเขียนการ์ตูนแนวผีสยองขวัญ ถูกเชิญให้มาร่วมท้าพิสูจน์ในรายการ ”กล้าพิสูจน์” พร้อมกับกลุ่มพิธีกรคือสำลี (นักจัดรายการวิทยุผีๆ) เชอรี่ นักแสดงชื่อดังที่ข่าวว่ามีซิกเซนต์สัมผัสที่ 6 ,จอห์นนี่ นักแสดงตลกที่มีความกล้าบ้าบิ่นชอบท้าพิสูจน์) และแขกรับเชิญคนอื่นๆ แม้จะกลัวผีโคตรๆ แต่ด้วยอาชีพที่ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผีๆ ทำให้ทศตกลงใจที่จะไปร่วม”กล้าพิสูจน์“ กับทีมงานที่บ้านร้างแห่งหนึ่งซึ่งถูกเลือกมาถ่ายทำรายการในครั้งนี้ มีประวัติอันน่ากลัวสยองขวัญว่าผู้หญิงท้องแก่คนหนึ่งถูกฆ่าตายอย่างทารุณ วิญญาณของเธอยังไม่ไปไหน แต่กลับมาปรากฏตัวให้ชาวบ้านแถบนั้นได้เห็นไม่ว่าในรูปของกลิ่นสาบสาง เสียงร้องไห้คร่ำครวญ หรือการมาปรากฏตัว
เมื่อ มีข้อมูลเช่นนี้ทีมงานกล้าพิสูจน์จึงได้เตรียมพร้อมทุกอย่างเพื่อทำการท้า พิสูจน์ ทั้งกล้องรังสีไวโอเลตความถี่สูงที่สามารถบันทึกภาพภูติผีวิญญาณ และอุปกรณ์จับผีซึ่งหากผีมาปรากฏตัวแม้ในรูปของวิญญาณ คลื่นความถี่ก็จะประมวลผลออกมาเป็นรูปภาพได้ ก่อนเริ่มรายการทุกคนได้พูดคุยกับชาวบ้านถึงความเฮี้ยนของผีสาว ทุกคนต่าง พูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความเฮี้ยนน่ากลัว ทั้งกลิ่นสาปสาง เสียงร้องไห้คร่ำครวญ การมาปรากฏตัวให้เห็น นัยว่าวิญญาณผีสาวกำลังรอคอยการแก้แค้นคนที่ฆ่าเธอ
เมื่อได้ยิน กิตติศัพท์ความเฮี้ยนของผีสาว ตั้งแต่ยังไม่ก้าวเท้าเข้าบ้านทศก็กลัวจนขนหัวแทบลุกขึ้นตั้ง ครั้นจะถอนตัวทีมงานก็ไม่ให้ถอน ทศจึงต้องกัดฟันทำเป็นใจดีสู้ผีต่อไป ถึงเวลาถ่ายทำทีมงานได้บุกเข้าไปในบ้าน ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าบ้านทุกคนก็ได้กลิ่นสาป สางเห็นรอยแห้งเกรอะกรังของคราบเลือด สภาพของบ้านที่ชวนสยดสยอง ซึ่งจู่ๆ ก็มีเสียงคนลากฝีเท้าขึ้นมาในบ้านรวมทั้งเสียงร้องไห้คร่ำครวญ การมาปรากฏตัวให้เห็น (ชายเสื้อแว่บๆ:การคิดไปเองของทีมงาน) แค่นั้นทุกคนก็เผ่นแน่บรวมทั้งทศ (ยกเว้นตากล้องที่ต้องวิ่งไปถ่ายไป)
แต่ โชคไม่ดีที่ทศดันทำไฟฉายตกแตกจนวิ่งไปชนชั้นวางของที่มีรูปปั้นเซรามิก ตุ๊กตาผู้หญิงวางอยู่จนแตกกระจาย ตอนนั้นทศไม่สนใจอะไรคิดเพียงอย่างเดียวที่จะวิ่งหนีผีให้สุดชีวิต ที่สุดทศก็ออกจากบ้านมาอยู่รวมกับทีมงานกล้าพิสูจน์ พิธีกรขอให้เพลย์เทปดูเพื่อพิสูจน์ถึงสิ่งที่เร้นลับแต่ภาพก็ไม่สามารถ บันทึกอะไรไว้เลยนอกจากภาพที่ทศวิ่งชนชั้นจนตุ๊กตาเซรามิกหล่นลงมาแตก จากภาพที่จับได้ ในตุ๊กตาเซรามิคเหมือนจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เชอรี่บอกว่าจากสัมผัสที่หกมันน่าจะเป็นของที่สามารถสื่อถึงวิญญาณ ทีมงานทุกคนจึงลงมติให้ทศเป็นคนเข้าไปเอา เพราะเหมือนเป็นความจงใจของเจ้าของบ้านที่อาจจะให้ทศเป็นคนมาเจอ ขัดไม่ได้ ทศจำต้องกลับเข้าไปเอาแต่คราวนี้ทศขอให้ทีมงานเข้าไปด้วย
เมื่อเข้าไปใน บ้าน ทศก็เห็นว่าในตุ๊กตาเซรามิก มีล็อกเกตชิ้นหนึ่งซ่อนอยู่ เมื่อทศเอามาให้ทีมงานดูก็เห็นเป็นภาพของชายหญิงคู่หนึ่ง ผู้หญิงลงลายมือชื่อว่าฟ้า ซึ่งชาวบ้านต่างยืนยันว่าเป็นภาพของผู้หญิงที่เคยอยู่ที่หลังบ้านนี้อย่าง แน่นอน และผู้ชายที่อยู่ในภาพก็คงเป็นสามีของผีสาว ผลปรากฏว่าแม้รายการจะไม่สามารถบันทึกภาพผีสาวได้ แต่ก็ตีข่าวไปไกลถึงความเฮี้ยนของผีสาวที่คงอยากมาปรากฏกายให้ทีมงานเห็น
ทศ ถูกมอบหน้าที่ให้เอาล็อกเกตไปถวายที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คนในรูปคืน นั้นเมื่อถึงห้องพักทศนอนไม่หลับเพราะกลัวจัด แถมไฟยังเกิดดับระหว่างที่ทศคลำสะเปะสะปะไปหยิบเทียนก็ปรากฏว่ามือของทศปัด ล็อคเกตจนหล่นลงกับพื้นโดยที่ไม่รู้ตัว
รุ่งเช้าทศพยายามหาเท่าไหร่ก็หา ไม่เจอ ทศจึงคิดตามประสาคนกลัวผีว่าผีฟ้าคงอยากได้ล็อกเกตคืน ทศไปทำบุญที่วัดอุทิศส่วนกุศลให้คนในรูปและอธิษฐานว่าขออย่าได้มาเจอกันอีก ไม่ว่าหลับหรือตื่น ฝน แฝดผู้น้องของฟ้า ออกจากบ้านเข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามหาพี่สาวที่หายสาปสูญไปหลังจากที่หนีตามจ่ามารุต เพราะพ่อคือกำนันเก่ง ไม่ชอบจ่ามารุต ที่ยากจน ไม่มีใครรู้ว่าคนทั้งคู่หายไปไหน เวลาผ่านไปนานหลายปีกำนันเก่งก็ไม่ใจอ่อนเสียที ฝนจึงขอแม่แก้วตามหาพี่สาว แม่แก้วตกลง ฝนจึงแอบหนีพ่อเข้ากรุงเทพฯ พร้อมทั้งบอกให้ แจ๋นเพื่อนสนิท ช่วยหาห้องเช่าห้องใหม่ให้ เพราะจะอยู่กับแจ๋นก็ไม่สะดวกเพราะแจ๋นพักอยู่แจ๊คกับน้องชาย
ตกดึกที่ ป้ายรถเมล์คืนหนึ่ง ทศเจอหน้าฝนก็เผ่นแน่บ ตะโกนว่าผีหลอก เพราะนึกว่าเป็นผีฟ้า ฝนเองก็แปลกใจ ไม่รู้ว่าทำไมทศต้องกลัวตัวเองขนาดนั้น ซ้ำร้ายไปกว่านั้นระหว่างที่ทศหลบไปอยู่ในห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันพอออกมายืน อยู่ที่หน้ากระจกก็เห็นผีฟ้ายืนอยู่ ทศแหกปากร้องลั่น หาว่าผีฟ้าตามมาหลอกหลอนไม่สิ้นสุด คราวนี้ฝนฉุกคิดเรื่องของผีฟ้าจนต้องวิ่งตามทศ
ทั้งสองต้องพัลวันพัลเก เพราะความเข้าใจผิด คนหนึ่งหนีคนหนึ่งตาม ที่สุดทั้งสองก็เจอกันและทศก็รู้ว่าฝนไม่ใช่ผี ฝนถามสาเหตุว่าทำไมทศต้องกลัวตัวเองด้วย ทศบอกเพราะฝนหน้าเหมือนผีสาวที่บ้านร้างมาก ฝนใจหายวูบ เป็นห่วงฟ้าอย่างหนักจึงขอให้ทศช่วยพาไปที่บ้านร้าง ทศปฏิเสธไม่ยอมทำท่าจะหนีท่าเดียว ฝนไม่ให้ไปเพราะทศต้องรับผิดชอบเพราะในขณะที่พัลวันพัลเกกันอยู่ ทศได้ทำที่อยู่ของแจ๋นและที่อยู่ของฝนหายไป
ทศบอกว่าจะช่วยหาที่อยู่ใหม่ ให้ ฝนบอกว่าเงินมีไม่พอ ถ้าให้หาที่อยู่ใหม่ทศก็ต้องจ่ายเงินค่าเช่าให้ ทศบอกไม่มีเพราะทศก็จนกรอบเหมือนกัน ที่สุดฝนก็บังคับให้ทศนั่งเฝ้าฝนที่ป้ายรถเมล์จนกว่าจะเช้า ทศไม่ยอมเพราะอยากจะกลับไปนอนเต็มแก่อีกทั้งยังมีงานค้างอยู่ ฝนก็ไม่ยอม ทศจึงบอกงั้นฝนก็ไปนอนที่ห้องทศแล้วกัน ฝนไม่ไปเพราะกลัวทศจะทำมิดีมิร้าย ทศบอกผู้ชายอย่างทศเป็นสุภาพบุรุษพอ ฝนจึงตกลงไปแต่มีข้อแม้ว่าทศต้องให้ฝนจับมัดมือมัดเท้าเพื่อความสบายใจและ ความปลอดภัยของฝน ด้วยความที่ง่วงเต็มแก่และการที่ฝนเน้นว่าหากเป็นสุภาพบุรุษพอ ทศจำต้องตกลง
ตกลง คืนนั้นฝนไปค้างอยู่ที่ห้องของทศ ท่ามกลางความกังวลใจเมื่อคิดถึงเรื่องของฟ้า รุ่งเช้า ฝนขอร้องทศใหม่ให้ช่วยพาไปที่บ้านร้าง ทศไม่ยอมบอกยังเสียวสันหลังไม่หาย ฝนทั้งอ้อนวอนทั้งขอร้องทศก็ไม่ยอม ฝนจึงต้องขอแลกด้วยการยอมเป็นแม่บ้าน ทำความสะอาด ซักเสื้อผ้าให้ แถมยอมเป็นเบ๊ให้ใช้หนึ่งเดือนโดยไม่คิดเงินเดือน ทศจึงยอมตกลง แต่มีข้อแม้ว่าฝนต้องอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวที่สุดห้ามออกไปเพ่นพ่าน ที่ไหนเพราะทศยังเป็นหนุ่มโสด ไม่ควรจะมีข่าวว่ามีเมียโดยไม่ได้รับเชิญ ฝนทั้งหมั่นไส้ทั้งโมโหทศ
แจ๋นเป็นห่วงฝน เมื่อมาหาฝนที่ห้องพักแล้วไม่เจอ และยิ่งห่วงหนักเมื่อเจ้าของที่พักบอกว่ายกห้องให้คนอื่นเช่าต่อไปแล้วเพราะ ไม่มีใครเข้ามาอยู่ แจ๋นพยายามโทรศัพท์ติดต่อจนได้เจอกับฝน แจ๋นบอกจะพาฝนไปอยู่ด้วยเป็นการชั่วคราว แต่ทศไม่ยอมอ้างว่ายังไม่ครบหนึ่งเดือนตามที่ฝนสัญญาว่าจะเป็นเบ๊ ฝนจึงจำใจอยู่กับทศ เพื่อให้ทศพาไปที่บ้านร้าง
ที่บ้านร้าง จากสภาพความทรุดโทรม ข้าวของที่ถูกรื้อกระจัดกระจาย ตลอดจนคราบเลือดที่เลอะติดผนังห้อง ทำให้ฝนใจไม่ดี ฝนให้ทศไปขุดใต้ต้นไม้ทุกต้นในบ้าน เพื่อหาไหเก็บความลับ ทศบอกว่าฝนเพ้อเจ้อ ฝนบอกไม่ได้เพ้อเจ้อเพราะตอนเด็กๆ เวลามีความลับอะไรฟ้ากับฝน มักจะเขียนเป็นบันทึกและเก็บไว้ในไหฝังไว้ใต้ต้นไม้ เมื่อฝนยืนยันอย่างนี้ทศจำต้องทำตาม และก็เป็นดังที่ฝนคาด ใต้ต้นพิกุลทศพบไหใบหนึ่งฝังอยู่ เมื่อเปิดออกมาดูก็พบบันทึกที่ฟ้าเขียนถึงความกังวล ความห่วงใยที่มีต่อจ่ามารุตที่ต้องทำคดีใหญ่เพื่อจะล้มล้างนักค้ายาเสพติด ในบันทึกยังบอกต่อว่าฟ้ากับจ่ามารุตถูกขู่ฆ่าหลายครั้งจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งฟ้าก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เมื่ออ่านบันทึก ฝนก็รู้ทันทีว่าฟ้าต้องประสบเคราะห์กรรมบางอย่าง
ขณะเดียวกัน เมื่อชาวบ้านได้เห็นหน้าฝนก็ยิ่งแตกตื่นตกใจ เพราะเหมือนผีสาววิญญาณเฮี้ยนจริงๆ ไม่มีใครรู้ว่าฝนคือฝาแฝดของฟ้า ฝนขอร้องไม่ให้ทศบอกเรื่องของฝนให้ใครรู้ ฝนจะสวมรอยเป็นผีฟ้าเพื่อค้นหาความจริงทั้งหมด โดยขอให้ทศช่วยร่วมมือด้วย
ทศ ปฏิเสธบอกไม่ถูกกันกับผี ทศคงทำใจไม่ได้หากต้องเผชิญหน้ากับผีทุกวี่ทุกวัน ฝนแย้งว่าถ้ากลัวผีทำไมทศถึงอยู่ในทีมกล้าพิสูจน์ได้ ทศบอกว่าเพราะไม่เคยเจอของจริง ทศปฏิเสธฝนโดยสิ้นเชิง แต่บังเอิญระหว่างที่ฝนทำความสะอาดห้องเกิดพบล็อกเกตที่หล่นอยู่ ซึ่งฝนจำได้แม่นว่าเป็นของฟ้าเพราะจ่ามารุตเคยทำให้ฟ้าเมื่อตอนที่รักกัน ใหม่ๆ ฝนบอกว่าฟ้าคงอยากให้ทศช่วย ด้วยความที่เป็นคนที่เชื่อเรื่องผีอยู่แล้วเจอฝนโน้มน้าวแบบนี้ ทศจึงยอมช่วยเหลือ ฝนขอให้ทศกับไปตามสืบที่สน.จึงได้รู้จากผู้กองพีระว่าจ่ามารุตหายไประหว่าง ที่ปฏิบัติหน้าที่เมื่อหลายปีก่อน จนบัดนี้ก็ยังไม่พบศพ หนำซ้ำไม่มีใครรู้ว่ามารุตมีภรรยา จึงไม่ได้ส่งข่าวไปบอก ทำให้ฝนมืดแปดด้านเพราะไม่มีเบาะแสอะไรเลย
ทศจะหาทางช่วยฝนได้สำเร็จหรือไม่ แล้วความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร ต้องติดตามชม