เรื่องย่อ : Margin Call เงินเดือด
..พนักงานหนุ่มเลือดใหม่ไฟแรง เซ็ท แบรกแมน (เพนน์ แบดจ์ลีย์ (Penn Badgley) จากซี่รี่ส์ Gossip Girl) และ ปีเตอร์ ซัลลีแวน (แซคคารี่ ควินโต้ (Zachary Quinto) จากซี่รี่ส์ Heroes) และรุ่นพี่อย่าง วิลล์ เอเมอร์สัน (พอล แบ็ตตานี (Paul Bettany) จาก Priest นักบุญปีศาจ) พวกเขาหลุดรอดออกมาจากจำนวนพนักงานที่ถูกเลย์ออฟจากบรัษัทที่กำลังเผชิญภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงปี 2008 หนึ่งในพนักงานที่ถูกปลดคือ อีริค เดล (Stanley Tucci) พนักงานจากฝ่ายบริหารความเสี่ยง และก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้มอบยูเอสบีไดร์ฟเกี่ยวกับโปร์เจคที่เขากำลังทำอยู่ให้กับปีเตอร์ไว้ และบอกกับปีเตอร์ว่า ระวังตัวให้ดี ในคืนนั้นเอง ปีเตอร์พยายามศึกษาข้อมูลจากยูเอสบีไดร์ฟดังกล่าวจนพบว่า ธุริกิจของบริษัทกำลังเผชิญกับภาวะความเสี่ยงที่ผันผวนในระดับที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ และเพราะความซับซ้อนของหลักทรัพย์ จึงทำให้ก่อนหน้านี้ ความเสี่ยงนี้ได้รอดพ้นจากเกณฑ์ที่ตั้งไว้และไม่ถูกแจ้งเตือน ซึ่งหากราคาของหลักทรัพย์กลุ่มนี้ลดไปเพียง 25% บริษัทจะล้มละลายทันที ปีเตอร์และ วิลล์จึงรีบแจ้งให้ผู้บริหารแซม โรเจอร์ส (Kevin Spacey จาก American Beauty) ทราบโดยทันที
ทุกคนที่เหลือในบริษัทถูกเรียกประชุมฉุกเฉินในคืนนั้นรวมทั้ง จาเร็ค โคเฮ็น (Simon Baker)หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ และหัวหน้าฝ่ายควบคุมความเสี่ยง ซาร่า โรเบิร์ตสัน (Demi Moore) ต่างต้องวางหมากอย่างแนบเนียนว่าจะรับมือกับสถานการณ์วิกฤตินี้อย่างไร โดยที่พวกเขาก็ไม่รู้ถึงชะตากรรมของตัวเองเช่นกัน ในขณะเดียวกัน CEO จอห์น ทัลด์ (Jeremy Irons จาก The Man in the Iron Mask) ได้ตัดสินใจให้แซม โรเจอร์ส (Kevin Spacey) รับผิดชอบการขายหลักทรัพย์นี้เกือบทั้งหมดในเช้าวันรุ่งขึ้น แซมต้องต่อสู้ระหว่างความกดดันจากทัลด์และความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เขาจะตัดสินใจทำตามแผนของทัลด์หรือไม่ และจะทำได้อย่างไร