เรื่องย่อ คาดเชือก
โพธิ์ทอง เป็นอำเภอเดียวในลุ่มน้ำภาคกลาง ซึ่งยังคงมีวิถีชีวิตริมน้ำที่ยังมีลมหายใจ ในขณะที่ชุมชนริมน้ำอื่น ๆ ล้วนแต่หันไปใช้การสัญจรทางบกเกือบหมดแล้ว และด้วยความที่ชุมชนแห่งนี้เข้าถึงลำบาก จึงเป็นแหล่งที่มาเฟียเจ้าถิ่นอย่าง นายทองคำ ทำมาหากินด้วยธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งบ่อนการพนันยาเสพติด นายทองคำผูกคาดแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย แม้แต่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องปล่อยเกียร์ว่างเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และแล้วในวันหนึ่ง ชายหนุ่มแปลกหน้าก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยมาดยียวนกวนประสาทและฝีมือมวยคาดเชือกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีความหนักหน่วงรุนแรงแบบแปลก ๆ ที่ดูเหมือนไม่ตั้งใจ แต่ผู้ที่โดนเข้าไปถึงหลับกลางอากาศ ซึ่งความยียวนของเขาผู้ที่ได้พบ และปะทะคารมกับเขาเป็นคนแรกคือ ละไม นักธุรกิจสาวสวยเจ้าของกิจการตลาดน้ำ และปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบิดามารดาที่เสียชีวิตจากการฆาตกรรมที่ทำให้ดูเป็นเหมือนอุบัติเหตุ
ละไมมีน้องสาวคนเดียวคือ ละเมียน ทั้งสองสาวมีนิสัยใจคอต่างกันสุดขั้ว ละไมนั้นออกจะถือตัว ไฮโซฯ และนิสัยที่เป็นที่เลื่องลือคือ งก และเค็ม แต่ลึก ๆ แล้วเป็นคนมีจิตใจดี ส่วนละเมียนออกจะติดดิน มึงมาพาโวย ใจร้อน เจ้าอารมณ์ ขณะที่ละไมคบกับ ทองดี ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของทองคำอภิมหา มาเฟียผู้ทำธุรกิจผิดกฎหมายทุกชนิด ละเมียนก็สนิทสนมกับ จวง แม่ของ บุญสม มวยคาดเชือกฝีมือดีคู่แข่งของทองดี ไม่มีใครรู้ว่าลึก ๆ แล้วบุญสมกับละเมียนรู้สึกอย่างไรต่อกัน แต่ภาพที่ออกมาทั้งคู่จะปะทะคารมกันตลอดเวลาโดยเสมอ ละเมียนซึ่งดูจะเกลียดชังบุญสมจนออกนอกหน้า ด้วยมีความคิดว่าเขาเป็นอันธพาล คอยหาแต่เรื่องเดือดร้อนใส่ตัวและแม่ ในความเป็นจริงผู้ที่ฆ่าพ่อแม่ของ 2 สาว คือทองคำและทองดี ทั้งนี้เพราะทั้ง 2 คนไม่พอใจที่ละไมคบกับทองดี และถ้าไม่มีพ่อแม่ ทองดีก็จะได้แต่งงานกับละไม ธุรกิจของครอบครัวละไมก็จะตกเป็นของสองพ่อลูกโดยปริยาย แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นตามนั้น ด้วยละไมสาบานว่าจะไม่ยอมแต่งงานหรือหาความสุขใด ๆ ให้ตัวเอง ถ้าไม่ได้ตัวฆาตกรมาลงโทษ ถึงแม้ทองดีพยายามแสดงความเอื้อเฟื้อต่าง ๆ และช่วยสืบหาฆาตกร แต่ละไมก็ยังไม่ใจอ่อน
ภายใต้สีหน้าท่าทางที่ดูเรื่อยเปื่อยไม่จริงจังแถมกวนโมโห อันเป็นพรสวรรค์นั้น คือความฉลาดเป็นกรดชนิดหาตัวจับได้ยาก ความสามารถพิเศษของธนูคือสมองจะรับภาพการต่อสู้ชนิดต่าง ๆ จากสายตา แล้วบันทึกไว้อย่างรวดเร็วราวกับสมองกล อีกทั้งพร้อมจะใช้ได้ทุกเมื่อ ธนู เดินทางมาโพธิ์ทอง เพื่อจะสำรวจสภาพความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตของชาวบ้านก่อนจะมารับตำแหน่งปลัดอำเภอแทนปลัดอำเภอคนเก่าที่ถูกนายทองคำใช้อิทธิพลบีบจนต้องออกไปจากพื้นที่ เมื่อไม่ทำตามที่นายทองคำต้องการก็กลายเป็นศพขึ้นอืดลอยในแม่น้ำ ละไมซึ่งค่อนข้างถือตัวแสดงอาการรังเกียจ และดูถูกกริยาวาจาของธนูอย่างไม่ไว้หน้า ธนูกลับรู้สึกพอใจที่จะกระเซ้าเย้าแหย่จนละไมต้องหัวเสียกลับไป และเมื่อได้พบกันอีกในครั้งต่อๆมา ธนูก็ได้พบคุณสมบัติเด่นอีก 2 ข้อของละไมคือ งก และเค็มจนเป็นที่เลื่องลือ ละไมมีน้องสาวคนเดียวชื่อ ละเมียน ละเมียนนั้นเป็นวัยรุ่นใจร้อน...เจ้าอารมณ์ แต่ก็แปลกที่เธอดูจะถูกชะตา และเข้ากันได้ดีกับธนูซึ่งทำให้พี่สาวไม่พอใจเป็นอย่างมาก ละเมียนเองก็มีศัตรูคู่อาฆาต คือบุญสม
ละไมซึ่งทิ้งท้ายกับธนูด้วยประโยคที่ว่า "ฉันจะไปฟ้องคุณทองดี" ได้นำหนังสือตำรามวยเล่มนั้นซึ่งก็คือ "ตำราพยัคฆ์ดำ" อันลือลั่นของ ช้างสารด่านพญายม มาให้ทองดี ทองดีเอาไปให้ทองคำ ทองคำแปลกใจและดีใจ ที่ตำราเล่มนั้นตกมาอยู่ที่ตนโดยไม่คาดฝัน ถึงแม้อีก 2 ท่าสุดท้ายที่ร้ายกาจที่สุดจะถูกฉีกหายไป แต่ก็ได้มาถึง 3 ท่าแรก จึงนำไปฝึกกับลูกชาย และคิดท่าใหม่โดยผสมผสาน พยัคฆ์ดำ 3 ท่าแรกกับท่าไม้ตายของตน
ธนูนั้นหลังจากปะทะคารมกับละไม ได้มาเที่ยวตลาดแล้วมีเรื่องกับลูกน้องคนสำคัญของทองดี ธนูสามารถชนะได้หมดจนเป็นที่ประทับใจชาวบ้านซึ่งถูกอิทธิพลมืดกดหัวมานาน ธนูถูกไล่ล่าจึงไปซ่อนตัวในบ้านละไม ซึ่งละไมก็เป็นคนมาพบอีก ธนูจึงจับละไมมัดปากและแขนเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการหนีของเขา การกระทำของธนูยิ่งสร้างความเกลียดชังและเจ็บแค้นให้ละไมและทองดีมากยิ่งขึ้น สำหรับธนูได้ปลอมตัวเข้ามาในโพธิ์ทอง อีกครั้งในรูปของคนขายลอตเตอรี่ การเข้ามาครั้งที่ 2 นี้เอง ทำให้เขาได้ข้อมูลต่าง ๆ ของโพธิ์ทอง และตระกูลทองคำเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งได้รับรู้เรื่องราวของบุญสมที่ขึ้นชก กับนักมวยต่างถิ่นจนทำให้นักมวยต่างถิ่นนั้นตาย ธนูได้เก็บงำความสงสัยไว้