เสียงซ้อมร้องเพลงและเสียงดนตรีจากวงของน้ำฝน เมืองบาดาลที่ดังมาจากท้ายซอย ทำให้ เดือน งามพร้อม (กรีน อัษฎาพร) เด็กสาวในซอยใฝ่ฝันจะเป็นนักร้องมีชื่อเสียงเจิดจรัสอยู่ในวงการเพลงลูกทุ่ง แม้ว่าช้อย (ศิรินทรา นิยากร) ผู้เป็นแม่จะเตือนว่าอาชีพเต้นกินรำกินไม่ยั่งยืน แถมเสี่ยงกับการเสียชื่อได้ง่าย ๆ รวิ (เติ้ล ธนพล) พระเอกลิเกหนุ่มลูกเจ้าของคณะในซอย ซึ่งชอบพอกับเดือนอยู่ก็ทัดทาน แต่ก็ไม่อาจห้ามความปรารถนาของเดือนได้ โดยที่รวิไม่รู้เลยว่าเดือนต้องการเป็นนักร้อง ไม่ใช่เพราะต้องการทำความฝันของตนให้สำเร็จเท่านั้น แต่ต้องการสร้างฐานะให้คู่ควรกับรวิและเพื่อเอาชนะ ศิริพร (หยก ธัญยกันต์) นางเอกงิ้ววิกเดียวกันกับตลาดรวิที่ทำการแสดงอยู่ และเธอก็แอบรักรวิอยู่ และเห็นเดือนเป็นคู่แข่ง ด้วยความรู้อันน้อยนิด อ่อนต่อโลก และทะเยอทะยานอยากสร้างฐานะ ทำให้เดือนก้าวไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น
ช้อย มีอาชีพเป็นแม่ค้าผลไม้ ร้านของช้อยเป็นคู่แข่งกับกิม (ก้อย ศิรินุช) ทำให้แก้ว (แพรวา ฉัตรธิดา) ลูกสาวของกิม อยากแข่งขันกับเดือน เมื่อเดือนสนใจจะไปเป็นนักร้องลูกทุ่ง แก้วก็ใฝ่ฝันจะไปเป็นนักร้องวงสตริงของค่ายเพลงดัง ๆ แม้ว่าเดือนจะชวนแก้วไปสมัครเป็นนักร้องที่วงดนตรีของน้ำฝน เมืองบาดาล ที่ท้ายซอยกับตน แต่แก้วก็ไม่สนใจ เดือนจึงชวนขำ (เพชร ปรัชญ์) เพื่อชายคนสนิทที่คบหากันมาแต่เด็กไปด้วย ขำอยากเป็นโฆษกวงดนตรีลูกทุ่ง จึงไปสมัครด้วย
พิมุก (ไม้ นนทพันท์) นักมวยหนุ่มลูกเจ้าของค่ายในตลาด มีนิสัยเกกมเรกเกเร ก็แอบชอบเดือนอยู่เหมือนกัน และมักจะมีเรื่องกับคณะลิเกของรวิอยู่บ่อย ๆ พิมุกเป็นเจ้าหนี้ของโรจน์กับประทีป ซึ่งอยู่วงดนตรี พิมุกกลัวว่าถ้าเดือนเด่นดังแล้ว ความรักของเขาจะห่างออกไปอีก จึงพยายามยื้อเดือนเอาไว้ ด้วยการถ่วงไม่ให้เดือนเจริญรุ่งเรืองในการเป็นนักร้อง ที่วงดนตรีของน้ำฝน เมืองบาดาล เธอได้พบกับโรจน์ (รุ่ง สุริยา) หัวหน้าวงและประทีป (แจ็ค ธนพล) ครูฝึกประจำวง ทั้งสองพึงใจในความงามของเดือน แม้ว่าเดือนจะเสียงดี เคยชนะการประกวดร้องเพลงตามเวทีต่าง ๆ มาบ้าง แต่ทั้งโรจน์และประทีป ซึ่งถูกกดดันทั้งอำนาจเถื่อนและอำนาจเงินก็ร่วมมือกันกดเดือนให้เป็นแค่หางเครื่องประจำวงเพื่อคอยหาเศษหาเลยให้พิมุกอยู่เนือง ๆ และให้เธอคอยรับใช้ในโอกาสต่าง ๆ ขำไปบอกรวิ ทำให้เขาเป็นห่วงและกล่าวเตือนเดือน แต่ศิริพรก็ใช้ความเป็นนางเอกงิ้วตีสนิทกับรวิให้เดือนเห็นอยู่บ่อยครั้ง เดือนจึงไม่ยอมเชื่อฟังรวิ และยอมเป็นหางเครื่องในวงของโรจน์ ด้วยหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะเป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้า
รวิรู้ว่าพิมุกพยายามเก็บเดือนเอาไว้ไม่ให้ประสบความสำเร็จ เขาจึงมาเตือนว่าหากรักควรจะปล่อยและสนับสนุนคนที่เรารัก แต่พิมุกรักแล้วต้องการครอบครอง พวกคณะลิเกกับค่ายมวยยกพวกตีกัน ในงานที่เดือนกำลังจะมีโอกาสได้แสดงความสามารถ เดือนโอกาสพังทลาย เธอเข้าในผิดคิดว่าเป็นเพราะรวิไม่อยากให้เธอได้ดี และต้องการเก็บเธอไว้ (เหตุที่เดือนเข้าใจผิดเป็นเพราะแผนของพิมุกร่วมมือกับศิริพร)
ลิ้นจี่ (เจเน็ท เขียว) หางเครื่องรุ่นปลดระวางแต่ก็ยังทำหน้าที่เป็นหัวหน้าของบรรดาหางเครื่องอยู่ไม่พอใจเดือนมากเพราะลิ้นจี่เป็นเมียของโรจน์ จึงหึงหวงและคอยกลั่นแกล้งเดือนอยู่ตลอดเวลา โชคดีที่มีป้อม (อ๋อง พัฒนะ) หางเครื่องวัยเดียวกับลิ้นจี่คอยช่วยเหลือและชี้แนะทางออกให้เดือน นอกจากนี้เดือนยังสนิทสนมกับแก้ว ที่มาสมัครหางเครื่องวัยเดียวกับเธอ และถูกถูกโรจน์บังคับให้นำความสาวไปเช่นสังเวยผู้มีอิทธิพลตามที่ต่าง ๆ โดยที่นางกิมผู้เป็นแม่ไม่รู้เรื่องเลย รวมทั้งพิมุกเองก็ได้แก้วเป็นเมีย แต่ด้วยความรู้สึกบางอย่างแก้วกลับหลงรักพิมุกอย่างเทิดทูนแม้ว่าพิมุกจะเลวสักเท่าไหร่ก็ตาม เธอก็ยังคงรักคงหวังดีอยู่นั่นแหละ
ในที่สุดด้วยความซื่อและอ่อนโลกของเดือน ทำให้เดือนหลงเชื่อว่าพิมุกจะใช้เส้นสายปั้นเธอเป็นนักร้องดังได้ เธอจึงเกือบยอมตกเป็นของพิมุก แต่ว่ารวิมาขัดจังหวะเอาไว้ได้ทัน รวิรู้ดีว่าเป็นแผนของศิริพรที่ร่วมมือด้วย คณะลิเกกับคณะงิ้วจึงประกาศตัวเป็นศัตรู และมักมีเรื่องตีกันอยู่บ่อย ๆ โดยที่ทางค่ายงิ้วเข้าร่วมกับค่ายมวย ปล่อยให้คณะลิเกของรวิอยู่โดดเดี่ยว โชคดีที่ขำมักแอบขนเอาหางเครื่องกระเทยมาช่วยต่อยตียามมีทัพใหญ่ราวีกันอยู่ประปราย ช้อยรู้ว่าเดือนเกือบเสียตัวก็เสียใจที่รู้ว่าเดือนถึงขนาดเอาตัวเข้าแลก ช้อยขอร้องให้เดือนเลิกอาชีพหางเครื่องแล้วมาเป็นแม่ค้าขายขนม แต่เดือนก็ยังมีความหวังอยู่ ทว่านานเข้า ความฝันของเธอก็ลางเลือนเมื่อโรจน์ผัดผ่อนไม่ยอมปั้นให้เธอเป็นนักร้องเสียที ประกอบกับชาวบ้านก็เริ่มเข้าใจผิด พูดกันถึงเรื่องที่เดือนใช้ความสาวเพื่อไต่เต้าไปสู่ความสำเร็จ คงมีเพียงรวิคนเดียวเท่านั้นที่ยังแอบช่วยเหลือเดือนอยู่ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ระหว่างนี้เอง รวิซึ่งแอบซุ่มเรียน และฝึกซ้อมเล่นดนตรีจนเกิดความชำนาญ ประกอบกับคณะลิเกซบเซา เพื่อความอยู่รอดเขาจึงตั้งวงดนตรี หันเหชีวิตไปเล่นดนตรีอยู่กับวงของเทพ (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) รวิได้มีโอกาสพบเดือนและขอร้องให้เดือนไปอยู่วงของเทพ
ทางโรจน์ไม่พอใจ จึงอาศัยไหว้วานให้พิมุกยกพวกมาท้าตีท้าต่อยกับรวิ รวิได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถเล่นเครื่องดนตรีที่ตนถนัดได้ ด้วยความเห็นใจ และความหวังว่าวงดนตรีของเทพกับระวิจะให้เธอเป็นนักร้อง เธอจึงตัดสินใจหนีจากวงของโรจน์มา ทั้งที่รู้ว่าโรจน์เป็นนักเลงและไม่ยอมแน่ เดือนถูกโรจน์และพิมุกตามทำร้าย หลายครั้งก็เจ็บตัวจวนเจียนจะถูกพิมุกกับคณะงิ้วจับตัวไป แต่รวิก็มาช่วยไว้ได้ทุกครั้ง ในที่สุดเดือนก็ได้ย้ายไปอยู่วงดนตรีของเทพในฐานะนักร้อง ช่วงนี้เองที่เดือนมีโอกาสใกล้ชิดกับรวิอีกครั้ง รวิเข้าใจสภาพของเดือนและพร้อมจะให้กำลังใจเธอต่อไป ทำให้เดือนรู้ว่าเธอไม่ได้รักเขาฝ่ายเดียว แต่ช้อยห้ามปรามมิให้เดือนคบหากับรวิ เพราะช้อยไม่ต้องการให้เดือนมีสามีกลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน และก็สงสารศิริพร ซึ่งมีพระคุณต่อนางด้วย (ด้วยมายาของศิริพร) แต่ด้วยความรักและความใกล้ชิดทำให้เธอตกหลุมรักกับรวิ อีกทั้งใช้รวิเป็นเกราะกำบังมิให้ก้อง (เต้ นันทศัย) กับขจร นักร้องนำในวงมายุ่งเกี่ยวกับเธอ
ศิริพรซึ่งหลงรักรวิ เธอเสียใจมาก เธอเริ่มเห็นเดือนเป็นคู่แข่ง ศิริพรเริ่มเรียนร้องเพลงอย่างจริงจัง และได้มีโอกาสพบกับแก้ว ซึ่งเป็นแดนเซอร์อยู่ค่ายเพลงแห่งหนึ่ง กิมแม่ของแก้วเป็นลูกหนี้ศิริพรอยู่ แก้วจึงเอาใจศิริพรด้วยการร่วมมือกับศิริพรทุกอย่างเพื่อทำลายเดือน ศิริพรเข้ามาพัวพันกับรวิอีกครั้งในฐานะนักร้องประจำวงของเทพ รวิแสดงความสนิทสนมจนเดือนน้อยใจ ศิริพรใช้คราบความดีกลั่นแกล้งใส่ร้ายเดือนทำให้รวิมีปากเสียงกับเดือนเป็นประจำ แม้ว่าป้อมกับขำจะคอยเป็นกำลังใจติดตามมาคอยดูแลเป็นเพื่อนเดือน แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้
เดือนตัดสินใจไปพบกับชูเกียรติ (ปั๋ง ประกาศิต) ผู้ติดการพนัน เจ้าของโมเดลลิ่ง และเป็นนักปั้นศิลปินมือทอง โดยที่ไม่รู้เลยว่าชูเกียรติเองก็เป็นญาติกับพิมุก พิมุกสัญญากับชูเกียรติว่าจะล้มมวยให้ ถ้าชูเกียรติจะร่วมมือกลั่นแกล้งระวิกับตน ชูเกียรติแบ่งรับแบ่งสู้เพราะตนเองก็อยากได้เดือนขึ้นมาเหมือนกัน ในขณะที่แก้วเป็นแดนเซอร์ที่ชูเกียรติหมายมั่นปั้นมือว่าจะปั้นให้เป็นนักร้องด้วยเช่นกัน แก้วได้พบกับเดือน ทั้งสองกลายเป็นคู่แข่งกัน แก้วนำเรื่องเสื่อมเสียมาประจานเดือน ทำให้เดือนโกรธและต้องการเอาชนะ รวิเตือนสติเดือน แต่ก็ถูกศิริพรกับแก้วใส่ร้ายอีก รวิพลั้งปากเพราะหึงเดือนจึงมีเหตุให้ต้องต่อยมวยกับพิมุกในงานวัดครั้งหนึ่งจนได้ เดือนเป็นห่วงรวิ แต่ชูเกียรติรับปากว่าถ้าเดือนยอมสนิทสนมกับตนบ้าง เขาจะสามารถพูดให้พิมุกล้มมวยได้
ในที่สุดเดือนก็ยอมรับข้อเสนอของชูเกียรติว่าต้องเอาความสนิทสนมเข้าแลก เดือนยอมรับข้อเสนอ ทั้งที่ยังใช้ชีวิตอยู่กับรวิ แก้วโพนทะนาข่าวนี้ไปทั่วตลาด ช้อยเสียใจถึงกับฆ่าตัวตาย เดือนกลับมาทำศพแม่ท่ามกลางเสียงประจานจากชาวบ้าน ศิริพรอำนาจเงินว่าจ้างแก้วให้ติดต่อนักข่าวเพื่อเผยแพร่ข่าวนักร้องสาวหน้าใหม่ที่ใช้เรือนร่างไต่เต้าและอกตัญญูจนแม่ต้องฆ่าตัวตาย เดือนเสียใจมาก ร้องไห้กับศพของแม่ที่ยังไม่ได้เผา ระหว่างนั้นเองแก้วก็ใช้ขี้ยาประจำซอยสองคนมาดักทำร้ายเดือน แต่รวิกับขำก็มาช่วยไว้ได้ทัน
รวิเข้าใจว่าเดือนมีอะไรกับชูเกียรติและพิมุกในเวลาเดียวกัน รวิเสียใจผิดหวังเขาขอเลิกและอวยพรให้เดือนโชคดี ส่วนเขาคงลงเอยกับศิริพร เดือนเก็บความเสียใจไว้เงียบ ๆ ความฝันที่จะสร้างฐานะเพื่อเอชนะใจเขากลับส่งผลในทางเลวร้ายลงทุกที แต่ไม่ว่ามรสุมของชีวิตจะโหมกระหน่ำใส่เดือนอย่างไร เดือนก็ไม่ยอมกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีกแล้ว เธอยอมก้าวพลาดเพื่อความสำเร็จในวันหน้า เดือนสัญญาทั้งกับชูเกียรติ และพิมุกว่าจะยอมเป็นเมียของทั้งคู่ โดยที่ทั้งชูเกียรติและพิมุกไม่รู้เลยว่าเดือนทำสัญญานี้กับทั้งสองคน ชูเกียรติกับพิมุกเริ่มแตกคอกันและมีเรื่องราว โดยมีเหตุให้รวิต้องมาอยู่ตรงกลาง และมีเรื่องกับทั้งสองก๊กนั่นอยู่บ่อย ๆ ชูเกียรติเช่าอพาร์ทเม้นท์ให้เดือน ดาวน์รถให้เดือน แต่เดือนต้องผ่อนส่งเอง เดือนมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ในใจลึก ๆ ก็เสียใจที่ทำให้รวิผิดหวัง ชูเกียรติติดต่อให้เดือนเข้าไปอยู่สังกัดค่ายเพลงของเสี่ยวาทิน
ข่าวแจกเกี่ยวกับเดือนทั้งดีและไม่ดีถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ จนทำให้มีคนรู้จักเดือนมากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยฝีมือของแดนเซอร์ที่ชื่อแก้ว แต่ไม่ว่าจะดังในทางดีหรือทางลบ ข่าวคราวของเดือนก็เป็นที่สนใจของเสี่ยทวีศักดิ์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ เขาขอให้เดือนไปแสดงภาพยนตร์ เดือนตกลงเพราะหวังเงินก้อนโตไว้ใช้ชีวิตในบั้นปลาย แต่แล้วเธอก็ต้องถูกเอารัดเอาเปรียบจากชูเกียรติ เพราะเขาตั้งตัวเป็นผู้จัดการส่วนตัวและขูดรีดผลประโยชน์จากเธอจนแทบไม่เหลืออะไร พิมุกเองก็พลาดท่าจนต้องจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ เพราะแก้วเป็นคนทำคนที่เธอรักตายด้วยความไม่ตั้งใจ แต่เป็นเพราะเธอ เผลอไปร่วมมือกับชูเกียรตินั่นเอง เดือนต้องการหนีจากชูเกียรติ จึงยื่นข้อเสนอเป็นเมียเก็บของทวีศักดิ์ โดยแลกกับบ้านหลังใหญ่ไว้คุ้มชีวิต เธอไม่ทราบเลยว่าทั้งหมดนี้เกิดจากชูเกียรตินำเธอมาขายสัญญาทาสให้ทวีศักดิ์ ศิริพรนำข่าวนี้มาบอกรวิ ยิ่งทำให้รวิเสียใจและชิงชังเดือนมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่อาจลืมเดือนได้ ทำให้ศิริพรยิ่งเกลียดชังและต้องการหาทางทำลายเดือนให้หนักยิ่งขึ้น
สายสมร ภรรยาของทวีศักดิ์รู้ข่าวเรื่องเดือนจึงตามมาอาละวาด ด่าทอให้เป็นที่อับอายท่ามกลางสายตาแฟนเพลงจำนวนมาก เดือนวิ่งหนีหลบหน้าผู้คนจนกลายเป็นข่าวใหญ่ เดือนฮึดสู้อีกครั้งโดยมีป้อมกับขำเป็นคู่คิด การที่เดือนถูกรังแกทำให้ทวีศักดิ์สงสารและรักเดือนอย่างจริงใจ เดือนได้รับเงินจากทวีศักดิ์จำนวนหาศาล ขณะที่ศิริพรถูกแก้วกับกิมปอกลอกจนแทบหมดตัว วงดนตรีของเทพแตก ศิริพรมาสมัครเป็นนักร้องในค่ายของเสี่ยวาทิน โดยการชักชวนของนันทนา ภรรยาเสี่ยวาทิน ส่วนรวิใช้เงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่เปิดร้านอาหารเล็ก ๆ โดยมีตนเป็นนักร้องโฟล์คซองขับกล่อมแขกในร้าน ขณะที่ชีวิตของเดือนกำลังจะดีขึ้นนั้น มรสุมลูกใหญ่ก็ซ้ำเติมเข้ามาอีก เสี่ยทวีศักดิ์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต บ้านหลังใหญ่และรถยนต์คันหรูยังผ่อนไม่หมด เดือนหันหน้าไปหาชูเกียรติแต่ก็ถูกปอกลอกเงินก้อนสุดท้ายไป เมื่อกลับไปหาเสี่ยวาทินก็ถูกนันทนาตบตีด้วยความหึงหวง โดยที่นันทนาหารู้ไม่ว่าศิริพรซึ่งไม่อยากทนใช้ชีวิตอยู่ในร้านอาหารเล็ก ๆ รายได้น้อยนิด ต้องมีชีวิตสมถะอีกต่อไป เธอหันหลังให้รวิและยอมเป็นเมียเก็บของวาทิน แก้วซึ่งเป็นเมียเก็บของวาทินหึงหวงจึงมีปากเสียงกับศิริพร แก้วยิงศิริพรตาย และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
เดือนกลับมาที่โลงศพแม่ ซึ่งเก็บไว้รอวันฌาปนกิจ เธอได้พบกับรวิ ในขณะที่รวิกำลังจัดงานศพของศิริพร ทั้งสองได้พบกัน รวิบอกว่าตลอดเวลาเขารอคอยเดือนอยู่ เดือนขอโทษและรับปากว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขาอีกครั้งด้วยชีวิตแบบพอเพียงและลืมเรื่องร้าย ๆ ที่ผ่านมาให้หมดสิ้นไป ติดตามชม ละครหางเครื่อง