ณ เวิ้งแม่น้ำอิระวดี ดินแดนพุกามประเทศ เมื่อพุทธศักราช ๒๐๗๓ เมงกะยินโยได้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามพระเจ้ามหาสิริชัยะสุระ ยกเศวตรฉัตรขึ้น ณ เมืองตองอู ทรงได้พระราชธิดาและพระราชบุตรพระนามว่า "จันทรา" และ "มังตรา" โดยมีนางเลาชีเป็นพระนม และนางเองก็มีบุตรชายชื่อว่า "จะเด็ด" เด็กทั้งสามจึงดื่มนมร่วมอกเดียวกัน
ครั้นเมื่อเจริญวัยจะเด็ดได้เกิดความรักขึ้นกับตะละแม่จันทรา ทั้งสองจึงถูกพรากให้จากกัน จะเด็ดได้ไปเป็นพนักงานให้กับขุนวังทะกยอดิน ซึ่งมีบุตรสาวชื่อนันทวดี แต่ต่อมาได้เกิดเรื่องกับอุปราชสอพินยาแห่งหงสาวดี จนถึงขั้นอุกฤษ มหาเถรกุโสดอจึงขอพระราชทานอภัยโทษโดยให้จะเด็ดไปสืบราชการลับที่ เมืองแปร โดยใช้ชื่อ "มังฉงาย" และเมื่อพระเจ้ามหาสิริชัยะสุระสิ้นพระชนม์ มังตราราชบุตรก็ขึ้นครองบัลลังก์แทน ทรงพระนามว่า "พระเจ้าตะเบงชเวตี้" และได้อภิเษกกับนันทวดี
พระเจ้านรบดีแห่งแปรนั้นโปรดปานจะเด็ดมากโดยมิได้ระแวงว่าเป็นไส้ศึก จึงให้เข้ามารับราชการอยู่ในวังโดยให้เป็นมโหรีหลวงสอน "ตะละแม่กุสุมา" ราชธิดาเล่นพิณ 13 สาย รานองเห็นจะเด็ดก็จำได้จึงวางแผนให้พระเจ้านรบดีบังคับจะเด็ดแต่งงานกับตะละแม่กุสุมา เพื่อผูกมัดตองอูไม่ให้เกิดศึกกับแปร มังตรารู้ข่าวเข้าใจว่าจะเด็ดทรยศจึงยกทัพมาตีแปร แต่ถูกพระเจ้านรบดีซ้อนกลจุดไฟเผาค่ายพ่ายแพ้กลับไป
กองทัพโมนยินของพระเจ้าโสหันพวารู้ว่าแปรกำลังอ่อนแอ จึงยกทัพมาตีกระหนาบซ้ำ สอพินยาพระคู่หมั้น "อเทตยา" หลานหลวง ซึ่งมีความริษยาจะเด็ดเพราะหลงรักกุสุมาอยู่เช่นกัน จึงวางแผนให้พวกโมนยินบุกเข้าเผาทำลายเมือง แล้วพากุสุมาหนีไปหงสาวดี กุสุมาเสียรู้ได้ตกเป็นมเหสีสอพินยา ส่วนจะเด็ดได้รับการช่วยเหลือจากกันทิมาลูกสาวตะคะญีครูดาบ ตีฝ่าวงล้อมกองทัพโมนยินกลับไปตองอู
มังตรานั้นยังโกรธแค้นจะเด็ดอยู่ถึงกับคิดจะประหาร แต่มหาเถรกุโสดอได้มาห้ามไว้ จะเด็ดขอแก้ตัวโดยนำกองทัพตองอูบุกไปตีแปรเป็นการล้างแค้น ศึกครั้งนี้จะเด็ดปราบได้ทั้งพวกโมนยินและแปรแต่พอรู้ว่าตะละแม่กุสุมาได้หนีไปหงสาวดีกับสอพินยา จะเด็ดก็แค้นหนักชวนจาเลงกะโบเพื่อนร่วมสาบานตามไปหงสาวดี ระหว่างนั้นสอพินยาไปราชการเมืองเมาะตะมะ จะเด็ดจึงใช้ให้ "ปอละเตียง" กับ "เชงสอบู" สองพี่น้องนางข้าหลวงกุสุมาช่วยพาลอบเข้าไปหากุสุมาเพื่อนำกุสุมากลับตองอู แต่กุสุมากลับหนีไปหาสอพินยาที่เมาะตะมะเพราะถือว่าได้เป็นเมีย-ผัวกันแล้ว
จะเด็ดยิ่งแค้นใจตามไปบุกชิงตัวกุสุมาคืน พร้อมกับเผากองเรือของสอพินยาเป็นการล้างแค้น หงสาวดีกับแปรจึงยกทัพมาตีกระหนาบ แต่จาเลงกะโบส่งข่าวไปให้ตะคะญียกทัพลงมาช่วยได้ทัน หงสาวดีกับแปรจึงถอยกลับเมืองไป จะเด็ดจึงยึดได้เมาะตะมะและแปร แล้วส่งตะคะญีมายั่วปะขันหวุ่นญีแม่ทัพแปรให้เกิดความแค้นใจถึงกับฆ่าตัวตาย ทำให้ "โชอั้ว" บุตรสาวฝังความแค้นในตัวจะเด็ดวางแผนให้จะเด็ดกับกุสุมาทะเลาะกัน จะเด็ดหลงกลเกิดความน้อยใจกุสุมาจึงชวนจาเลงกะโบกลับตองอู
เมื่อถึงตองอูจะเด็ดกับมังตราเกิดทะเลาะกัน เพราะมังตราคิดว่าที่เกิดศึกเมาะตะมะนั้นเพราะจะเด็ดหลงผู้หญิงเพียงคนเดียว ด้วยความเมาจะเด็ดได้สังหารทหารองครักษ์มังตราเสียชีวิต จันทรากับเลาชีต้องมาขอพระราชทานชีวิตให้จะเด็ด และขอให้จะเด็ดบวชอยู่กับพระมหาเถรที่วัดกุโสดอ
สอพินยาได้ร่วมกับทัพโมนยินที่ตอนนี้ตีได้เมืองอังวะแล้ว ยกมาตีตองอูกับแปร มังตราต้องทำสงครามเพียงลำพังทำให้เกือบจะเสียเมือง จะเด็ดทนดูไม่ได้จึงขอร้องให้ตะละแม่จันทราช่วยจัดการสึกจากพระมาช่วยมังตราป้องกันเมืองจนพวกอังวะถอยไป ทำให้มังตราหายโกรธจะเด็ด
ส่วนศึกที่แปรนั้นไขลูกับโชอั้วได้ร่วมกันหลอกจีสะเบงลูกแม่ทัพตองหวุ่นญีให้เปิดประตูเมือง แต่จาเลงกะโบไหวตัวทันป้องกันเมืองแปรไว้ได้ จีสะเบงจึงถูกพ่อฆ่าตายและไขลูถูกจับเป็นเชลย ส่วนโชอั้วนั้นจะเด็ดได้นำไปถวายเป็นพระสนมเอกมังตรา และจะเด็ดได้พูดจาหว่านล้อมให้จันทรายอมอภิเษกกับตนพร้อมกุสุมา ด้วยความรักและเห็นใจจะเด็ดจันทราจึงยอมทำตาม แต่เลาชีคัดค้านหากจะเด็ดฝืนจะขอยอมตาย จะเด็ดเห็นแก่แม่จึงยอมส่งกุสุมากลับแปร และนิมนต์พระมหาเถรตามไปงานอภิเษกตนกับกุสุมาที่แปร และจะเด็ดได้เป็นแม่ทัพแปรแทนปะขันหวุ่นญี สอพินยารู้เรื่องจึงลอบวางแผนไปช่วยไขลูออกมาจากตองอู และได้ลอบฆ่าพระมหาเถรตาย
จะเด็ดแค้นใจรีบจัดทัพลงไปตีหงสาวดี พระเจ้าสการะวุตพีกับสอพินยาสู้ไม่ได้ จึงทิ้งเมืองพากันหนีไปเมาะตะมะ จะเด็ดยึดเมืองหงสาวดีได้ก็ยกทัพตามไปจับพระเจ้าสการะวุตพีสำเร็จโทษ สอพินยาสำนึกผิดที่ก่อเรื่องขึ้นมาทั้งหมดจึงปลงพระชนม์ชีพตนเอง แล้วจะเด็ดจึงจัดพิธีพระราชทานเพลิงพระศพพระมหาเถร โดยจับไขลูมาแล่เนื้อเผาประชุมเพลิงไปด้วยเพื่อให้หายแค้น
จากนั้นจึงประกอบพิธีพระบรมราชาภิเษกพระเจ้าตะเบงชเวตี้ขึ้นเป็นจักรพรรดิ์ แห่งพุกาม ประทับอยู่ ณ กรุงหงสาวดี ส่วนจะเด็ดได้พากุสุมา, มินบู, อเทตยา, ตองสา, และเชงสอบู กลับไปอยู่กับจันทราที่ตองอู เนงบากลับไปยังหมู่บ้านกระเหรี่ยงเพื่อสู่ขอกันทิมา แต่พอรู้ว่ากันทิมารักอยู่กับจะเด็ดก็น้อยใจ ประกาศตัดเป็นตัดตายกับจะเด็ดหนีไปอังวะ จะเด็ดรู้ข่าวรีบออกติดตามก็ไม่พบ
ปลายปีนั้น "สันเทโว" เจ้าเมืองทรางทวย พระอนุชาพระเจ้าเมงบา เจ้าเมืองยะข่าย ระแวงพระเจ้าตะเบงชเวตี้จะมาย่ำยี จึงรีบเข้ามาสวามิภักดิ์แจ้งให้ไปตียะข่ายแทน พระเจ้าตะเบงชเวตี้กำลังโปรดอาวุธปืนไฟของพวกโปรตุเกสและอยากล้างอายที่ทำศึกแพ้จะเด็ดมาถึงสองหน จึงให้จัดทัพไปเอาเมืองยะข่าย พระเจ้าเมงบาเห็นทางสู้ไม่ได้จึงเปิดเมืองรับตะเบงชเวตี้ พร้อมกับถวาย "ตะละแม่มุขอาย" พระธิดาเชื้อสายมองโกลเป็นมเหสี มังตราโปรดมุขอายมากจึงไม่ยอมกลับหงสาวดี
"สมิงสอตุด" ขุนวังเชื้อสายเก่าสการะวุตพีผู้มีความแค้นในตัวจะเด็ด รู้ข่าวว่าทางโยเดียกำลังผลัดแผ่นดิน จึงกราบทูลยุยงให้ตะเบงชเวตี้ยกไปตี
จะเด็ดทัดทานไม่ได้จึงอาสาเป็นทัพหน้าไปเตรียมเสบียงให้ จนกระทั่งพระมหากษัตริย์โยเดียแต่งทูตมาขอสงบศึก จะเด็ดเห็นว่าการยอมเจรจากับโยเดียครั้งนี้จะสร้างพระเมตตาคุณอันยิ่งใหญ่ให้เลื่องลือ จึงกราบทูลให้ตะเบงชเวตี้เจริญพระราชไมตรีกับกรุงโยเดีย แม่ทัพนายกองทุกคนก็เห็นด้วย ทำให้ตะเบงชเวตี้น้อยพระทัยที่ไม่ได้ยาตราทัพเข้ากรุงโยเดียแม้แต่กว้าเดียว เมื่อเดินทางกลับมาถึงเมาะตะมะก็เกิดข่าวลือว่าทัพตะเบงชเวตี้มิได้มีชัยแก่กรุงโยเดีย และที่รอดมาได้ก็เพราะสติปัญญาของจะเด็ดก็ทรงกริ้วจับคนพูดมาประหารเอาศพโยนทิ้งน้ำ สร้างความเจ็บแค้นให้กับชาวมอญเป็นอย่างมาก จะเด็ดต้องปลอบโยนจนสงบแล้วจัดขบวนทัพแห่เข้าหงสาวดีอย่างยิ่งใหญ่ แต่เกิดอาเพศอสุนีบาตตกต้องช้างพระที่นั่งจนพระองค์ได้รับบาดเจ็บ ต้องเข้าพิธีสะเดาะเคราะห์กระทำเป็นสู่สวรรคต ๗ ราตรี จะเด็ดจึงต้องอยู่เป็นเพื่อน โดยให้สมิงสอตุดเป็นผู้สำเร็จราชการกรุงหงสาวดีแทน สมิงสอตุดจึงใช้โอกาสนี้ยุแยงให้พระเจ้าเมงบาผิดใจกับจะเด็ดยกทัพมาบุกตองอู นันทวดีกับกันทิมาและข้าราชบริพารช่วยกันต่อสู้รักษากรุงหงสาวดีไว้ได้ แล้วรีบส่งกันทิมากับทหารขึ้นไปช่วยจันทราและพระโอรส ขณะเดียวกันมังตราได้ถูก "พยัตตบะ" ปรุงน้ำจัณฑ์ใส่ยาพิษถวายจนพระอาการทรุดหนัก จะเด็ดจึงไม่กล้าทิ้งมังตราขึ้นไปช่วยตองอู
.
พระเจ้าเมงบาได้ตั้งทัพคอยสกัดขบวนกันทิมาที่พาจันทราและพระโอรสหลบหนีมาตามช่องเขา ทำให้กันทิมาไม่อาจสู้กับกองทัพพระเจ้าเมงบาได้ แต่เนงบารู้ข่าวการยกทัพของพระเจ้าเมงบาจึงพากำลังจากซุ้มโจรของตนมาช่วย แต่ด้วยกำลังน้อยกว่าจึงสู้ไม่ได้.....ทั้งเนงบากับกันทิมาจึงเสียชีวิตในสนามรบ
มังตรารู้ตัวว่าคงไม่มีพระชนม์ชีพอีกต่อไปจึงขอให้จะเด็ดไปปราบพระเจ้าเมงบา เพื่อรักษาแผ่นดินพุกามทั้งหมดเอาไว้ให้สมพระนาม "ผู้ชนะสิบทิศ" ตามที่พระองค์เคยฝันไว้ แล้วสิ้นพระชนม์ จะเด็ดจึงได้ยกทัพไปช่วยจันทราและลูกได้ทัน พระเจ้าเมงบาถูกสำเร็จโทษในสนามรบ
เสร็จศึกแล้วก็เป็นอันสิ้นเสี้ยนหนาม จะเด็ดหรือบุเรงนองจึงราชาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ เฉลิมพระนามว่า "พระเจ้าสิริสุธรรมราชา" ครองกรุงหงสาวดีเป็น...ผู้ชนะสิบทิศ ตะละแม่นันทวดีนั้น เมื่อถวายพระมหามงกุฎแด่พระเจ้าอยู่หัวสิบทิศแล้ว ก็กราบทูลลาออกบวชแสวงหาความสงบสุขตราบชั่วอายุขัย
ติดตามชม ละคร "ผู้ชนะสิบทิศ" ออกอากาศทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 08.00/11.45/16.35/20.00 น. ทางช่อง 8
รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รับบทเป็น จะเด็ด/มังฉงาย/บุเรงนองกะยอดินนรธา/ปะหยิ่นหน่าว
จิระ ด่านบวรเกียรติ รับบทเป็น มังตรา / ตะเบงชเวตี้ / ตะปิ่นชเวตี
ณฉัตร วัลเณซ่า เมืองโคตรรับบทเป็น
ตะละแม่กุสุมา
ปริศนา กัมพูสิริ รับบทเป็น
ตะละแม่จันทรา
ปรมะ อิ่มอโนทัย